เทคโนโลยีใหม่ๆ

ถึงช่วงเวลาของการอัพเดตข่าวในแวดวงไอทีกับ IT360 กันแล้ว และวันนี้ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากกันเช่นเคย เริ่มด้วยการกลับมาอีกครั้งของ Windows XP อาจจะด้วยความไม่พร้อมของผู้ใช้ที่จะย้ายไปสู่ Windows Vista ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องตัดสินใจยืดอายุเวลาของ Windows XP ออกไปอีกระยะหนึ่ง จากเดิมที่ Windows XP นั้นจะมีจำหน่ายควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์ยี่ห้อต่างๆ จนถึงวันที่ 31 มกราคม ปีหน้าเท่านั้น แต่ล่าสุดค่ายผู้ผลิตพีซีก็สามารถล็อบบี้ไมโครซอฟท์ให้ขยายเวลาดังกล่าวออกไปได้จนถึง 30 มิถุนายน 2551 และเพิ่มเวลาของ Windows XP Starter Edition ไปจนถึงปี 2553 เลยทีเดียวช่วงที่ผ่านมามีผู้ผลิตพีซีหลายค่ายที่เสนอทางเลือกใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถปรับจาก Windows Vista เวอร์ชัน Business และ Ultimate บนเครื่องให้กลายเป็น Windows XP ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นในการเปลี่ยนไปใช้ Windows Vista ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า Windows Vista นั้นยังคงมีปัญหาเวลาทำงานกับซอฟต์แวร์เก่าๆ บางโปรแกรม และเล่นเกมเก่าๆ ก็ไม่ค่อยได้เท่าไร จึงยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังอยากใช้ Windows XP อยู่ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า Windows Vista ขายไม่ดีนะเพราะถึงวันนี้นี่ขายไปแล้วกว่า 60 ล้านก๊อปปี้ เรียกว่าเป็นยอดขายที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์เลยก็ว่าได้ ข้ามฟากมาที่คู่แข่งของไมโครซอฟท์ตลอดกาลอย่างค่าย Apple กันบ้างหลังจากที่กระแส Apple iPhone เถื่อนที่โดนปลดล็อกกันง่ายๆ ทำให้มีขายกันเต็มไปหมดในห้างดังบ้านเรา ล่าสุด Apple ก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วแม้ทางบริษัทจะปฏิเสธว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้มุ่งไปที่ iPhone ซึ่งโดนปลดล็อกโดยตรง แต่ใครๆ ดูก็ต้องบอกว่าใช่ อย่างนโยบายล่าสุดของแอปเปิ้ลได้ระบุว่า ใครเอา iPhone ไปปลดล็อกทำให้ใช้งานร่วมกับซิมโทรศัพท์มือถือของค่ายอื่นๆ นอกจาก AT&T ในสหรัฐฯ จะถือว่าเครื่อง iPhone ดังกล่าวหมดประกันทันที นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังได้ปล่อย iPhone ที่ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 1.1.1 ออกมา ที่ป้องกันการปลดล็อกซะอยู่หมัด ก็ต้องรอดูกันว่า ชุมชน iPhone เถื่อนบนเน็ตจะตอบรับด้วยวิธีใด จากนั้นไปต่อกันที่ญี่ปุ่นกันกับยอดขายของเครื่องเล่นเกม PSP Slim ตัวล่าสุดจากโซนีหลังจากที่หกล้มอย่างไม่เป็นท่ากับ PS3 ล่าสุดเครื่องเล่นเกมแบบพกพา PSP Slim ตัวใหม่จากค่ายโซนี ที่เป็นการอัพเกรด PSP ด้วยคุณสมบัติใหม่พร้อมด้วยราคาที่ถูกกว่าและมีขนาดบางกว่า ก็สามารถสร้างสถิติให้โซนีใจชื้นขึ้นมาได้ด้วยยอดขาย 250,000 เครื่องภายใน 4 วันหลังจากเปิดตัว เรียกว่า ยอดขายใน 4 วันนี่เท่ากับยอดขายของ PSP ตัวเก่าในช่วงเวลา 2 เดือนคือ กรกฎาคมและสิงหาคม เลยทีเดียว ที่สำคัญตัวใหม่มีราคาถูกกว่าตัวเก่าพอสมควรด้วย แต่แม้จะเพิ่งออกมาได้ไม่นาน ตอนนี้เราก็เริ่มเห็นรูปแบบการปลดล็อค PSP Slim ให้สามารถเล่นเกมเถื่อนไม่มีลิขสิทธิ์ได้แล้ว และปิดท้ายวันนี้กันด้วยข่าวคราวเตือนภัยสำหรับผู้ที่ใช้บัตรเอทีเอ็ม โดยชมรมธุรกิจบริการเอทีเอ็มได้แจ้งเตือนให้ทุกธนาคารระมัดระวังรูปแบบการทุจริตผ่านเอทีเอ็มด้วยวิธีการติดตั้งแผงปุ่มกดและช่องสอดบัตรปลอม เพื่อลอบขโมยรหัสเอทีเอ็มและข้อมูลบนบัตรสำหรับนำไปทำบัตรปลอม ที่อาจทำให้ลูกค้าเสียเงินหมดทั้งบัญชีได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งความผิดปกติครั้งนี้ถูกตรวจพบที่ตู้เอทีเอ็มของ ธ. กรุงศรีอยุธยา ในจังหวัดภูเก็ตจะเห็นว่าแผงกดตัวเลขและช่องใส่บัตรจะมีลักษณะถูกติดตั้งสวมทับบนอุปกรณ์เดิม ฉะนั้นต่อไปเวลากดเงินต้องระมัดระวังให้ดี หากมีข้อสงสัยให้รีบติดต่อธนาคารทันที Sony OLED หลังจากเป็นกระแสข่าวอยู่นาน ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัวกับโทรทัศน์แบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี OLED จากโซนี ซึ่งมีดีเดย์วางจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดจอแอลซีดีและพลาสม่ามีการตื่นตัวขึ้นพอสมควรทีเดียวโซนีถือเป็นค่ายแรกที่ผลิตโทรทัศน์ที่ใช้จอ OLED แต่จะเป็นเบอร์หนึ่งไปได้ตลอดกาลหรือไม่นั้นอันนี้ต้องรอดูกันต่อไป ส่วนตลาดแอลซีดีนั้นโซนีอยู่ในอันดับสองรองจากซัมซุง สำหรับโทรทัศน์ OLED ที่จะเปิดตัวนั้นมีขนาดเล็กเพียง 11 นิ้ว แต่โดดเด่นที่ความหนา เพราะหนากันแค่ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนราคาคาดว่าน่าจะอยู่ราวๆ 61,000 บาท ของใหม่ก็อย่างนี้แพงเป็นธรรมดาข้อดีของ OLED อยู่ที่การประหยัดพลังงาน ความบางเฉียบ และน้ำหนักที่เบากว่า รวมไปถึงสีสันของภาพที่สวยสดสมจริง และแสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจนทุกเม็ดสี เรียกว่า ไม่มีอาการเบลอๆ เหมือนที่เห็นบนจอแอลซีดีทั่วไป เสียอย่างเดียวที่ตอนนี้ติดข้อจำกัดในเรื่องการผลิตหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ โซนีก็เลยเข็นเอารุ่น 11 นิ้วมาชิมลางในตลาดซะก่อน โดยการผลิตครั้งนี้จะทำออกมาจำหน่ายแค่ 2,000 ชุด และราคาที่ตั้งไว้ก็เป็นราคาที่โซนีไม่ได้กำไรเลยแม้แต่บาทเดียว แถมยังขาดทุนด้วยซ้ำ เรียกว่าพยายามผลักดันตลาด OLED ให้เกิดก็ว่าได้